ฟุตบอลโลก
วันที่เขียนบล็อกนี้อยู่เป็นช่วงรอยต่อระหว่างฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศระหว่างเยอรมัน กับ อาร์เจนตินาครับ จริง ๆ แล้วเป็นฅนที่ไม่ได้สนใจฟุตบอลเป็นเรื่องเป็นราวอะไร ถ้ามีคู่ไหนดัง ๆ (ทั้งบอลโลก หรือบอลลีก) ก็ดูบ้างถ้ามีเวลาว่างพอดี แล้วก็ไม่ได้เชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษ
บอลโลกครั้งแรกที่ดู ก็น่าจะปี 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ จำได้ว่าวันนั้นนั่งทำโปรเจคท์ของวิชาเคมีอยู่จนถึงเกือบเช้า ก็เลยได้เปิดทีวีไปด้วยนั่งดูไปด้วย เป็นคู่เปิดสนามบราซิลกับทีมอะไรก็จำไม่ค่อยได้แล้ว หลังจากนั้นปีถัด ๆ มาก็ได้ดูประปราย ข้อสังเกตตั้งแต่ดูบอลแบบงู ๆ ปลา ๆ ของผมเป็นแบบนี้ครับ
– เนื่องจากได้ดูบอลห่าง ๆ ไม่ได้ติดตามมาโดยตลอดบ้าง แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเมื่อ 10 กว่าปีก่อนกับปัจจุบัน รูปแบบการทำประตูดูจะเปลี่ยนไปมาก เมื่อสมัย 1998 ผมจำได้ว่า ประตูที่มักจะทำได้เกิดจากลูกสวนกลับเป็นหลัก เวลาบุกตามปกติแล้วมีกองหลังประกบแน่น ๆ อยู่หน้าประตูนี่ แทบไม่ต้องลุ้นเลย คือยังไงก็ไม่มีประตูแน่ ในขณะที่ลูกตั้งเตะก็ดูเหมือนจะไม่ได้อันตรายเหมือนในสมัยนี้ ในขณะที่ปีนี้ เท่าที่ดู ผมรู้สึกว่าลูกตั้งเตะจะเป็นลูกที่อันตราย ทำประตูได้บ่อยครั้งจากลูกเตะมุม ในขณะที่ลูกสวนกลับไม่ค่อยเห็น หรือมีก็ทำประตูกันไม่ค่อยได้
– เวลาดูบอลฅนมักจะถามเสมอ ๆ ว่าเชียร์ทีมไหน จริง ๆ แล้วช่วงบอลโลก 3-4 รอบหลังมานี่ ทีมที่รู้สึกว่าอยากจะดูก็มีแค่ 3 ทีม คืออังกฤษ เยอรมัน แล้วก็บราซิล อังกฤษนี่ที่ดูก็เพราะว่าพอคุ้นชื่อนักเตะบ้าง (ตั้งแต่สมัยเบ็คแฮม โอเวน) แต่ถ้าคิดจะเชียร์ก็ต้องทำใจหน่อยเพราะว่าเป็นทีมที่เชียร์ไม่ขึ้นเอาเสียเลย ต้องทำใจพอ ๆ กับเชียร์ลิเวอร์พูลเลยล่ะ (ฮา)
– ส่วนบราซิลนี่อยากดูเพราะชื่อชั้นล้วน ๆ แล้วก็นักเตะดัง ๆ มาก เท่าที่สังเกต ถ้าเป็นนักดูบอลเมื่อ 20-30 ปีก่อน ก็มักจะมีบราซิลในดวงใจ เท่าที่เคยอ่าน สมัยก่อนบราซิลจะเล่นบอลสวยงาม มีความคิดสร้างสรรค์มาก ความสามารถเฉพาะตัวดี แล้วก็มีความเป็นศิลปินสูง แต่เท่าที่ผมดูมาในรุ่นผม ก็รู้สึกเฉย ๆ นะ ดูแล้วการเล่นก็ไม่ได้แตกต่างจากทีมอื่นเท่าไหร่ ได้บอลมาแล้วก็ต่อบอลไป ดูไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะมีลูกเล่นมากขนาดนั้น
– แต่ที่ตรงกันข้ามก็คือทีมเยอรมัน ซึ่งสองสามหนหลังก็รู้สึกว่าเป็นทีมที่ดูสนุก (และเชียร์ขึ้นเสียด้วย) ทีมนี้แฟนบอลรุ่นเก่า ๆ บางฅนไม่ชอบเลย บอกว่าเล่นเหมือนหุ่นยนต์ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าการเล่นที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีข้อผิดพลาด มันก็มีความสวยงามที่น่าดูเหมือนกลไกที่ทำงานได้เป๊ะ ๆ เหมือนกัน อย่างเวลามีวิเคราะห์พักครึ่ง เทปรีรันที่ให้ดูการเล่นของทีมเยอรมันที่กระจายตัวผู้เล่นครอบคลุม และเว้นเป๊ะ ๆ ช่องไฟเท่ากันหมดก็ทำให้ผมคิดว่าน่าทึ่งนะครับ และรูปแบบของการบุกก็มีลักษณะเป็นทีมสูง
– ดูเหมือนฟุตบอลโลกปีนี้ จะเป็นปีที่การเล่นเป็นทีมดูจะข่มความเป็นดาราของนักฟุตบอล ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณเป็นดาราดัง ทีมฝั่งตรงข้ามก็จะประกบอย่างเหนี่ยวแน่น อย่างน้อยก็สองฅนประกบล่ะ หรือยิ่งกว่านั้นบางทีก็สามฅนด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าโดนประกบเหนี่ยวแน่นขนาดนั้น ก็ไม่แปลกอะไรว่าต่อให้เก่งขนาดไหนก็เล่นไม่ออก
– สมัยที่ไปทำแล็บที่อเมริกา ก็พบว่าที่นู่นเขาก็เชียร์บอลอยู่นะ (อาจจะเป็นเพราะว่าอเมริกาเข้ารอบสุดท้ายด้วย) มีการนัดกันไปดูตามบ้าน รวมไปถึงเปิดจอยักษ์ให้เชียร์ตามสถานที่ต่าง ๆ แต่โดยรวมแล้ว ผมก็คิดว่าอเมริกันฟุตบอล กับบาสเก็ตบอลยังมีชื่อโด่งดังมากกว่าฟุตบอลเยอะ
– ทีนี้ความสนุกของการดูบอลนี่ ส่วนใหญ่เวลาดูไฮไลท์ก็มักจะดูตอนยิงประตูกัน แต่สำหรับผมแล้ว ส่วนที่เขาตัดมารีรันให้ดูก็จะไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่ เพราะช่วงยิงประตูมักเป็นช่วงที่การป้องกันอ่อนแอ หรือโดนเจาะเข้าไปแล้ว ที่ผมสนใจมากกว่าก็คือว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น จึงการทำให้การป้องกันโดนทะลุเจาะไปได้นะครับ เพราะฉะนั้นถ้าได้ดูเต็ม ๆ ก็จะชอบมากกว่าดูแค่ช่วงยิงประตูนะครับ
– ส่วนความสนุกอีกอย่างสำหรับผมก็คือการดูการโต้กันไปโต้กันมา อย่างผมเองเวลาเล่นกีฬาก็จะเล่นเป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่า เพราะฉะนั้นเวลาดูบอล ก็จะชอบดูว่าแต่ละฝ่ายตั้งรับอย่างไร ซึ่งหลาย ๆ หนก็จะมีความเห็นแตกต่างจากฅนที่พากษ์บอลเหมือนกัน เช่น ทีมนี้ใช้วิธีตั้งรับแบบคุมโซน ไม่เน้นการเข้าประกบผู้เล่นแบบเดี่ยว ๆ เพราะฉะนั้น ก็อาจจะเห็นทีมตรงข้ามเลี้ยงบอลเข้ามาอยู่ในบริเวณกรอบหน้าแบบหวาดเสียว ซึ่งฅนพากษ์ก็มักจะบอกว่าฝ่ายรับป้องกันได้ไม่ดี ทำให้ถูกบุกเข้ามาได้ แต่ผมดูแล้วก็จะคิดว่า ถึงฝ่ายครองบอลจะเลี้ยงจี้เข้ามา แต่ก็โดนบังทางหมด และไม่มีช่องส่งบอลต่อได้เลย สุดท้ายก็คงจะเสียบอลและโดนสวนกลับอยู่ดี เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะไม่มีการทำประตูเกิดขึ้น แต่ลักษณะของการป้องกันแบบที่เราดูแล้วพอจะทำนายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ทำให้ดูสนุกไปตลอดทั้งเกมเหมือนกันนะครับ (ส่วนบอลที่ดูไม่สนุกสำหรับผม คือบอลที่อยู่แต่กลางสนาม โดนตัดกันไปตัดกันมา หรือผิดพลาดเอง ไม่มีโอกาสได้เห็นกึ๋นของทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายรับเท่าไหร่)
– แต่จริง ๆ แล้ว การจะเชียร์บอลก็อาจจะไม่จำเป็นต้องรู้จักนักบอลมาก่อนก็ได้ครับ ยังปีนี้เอง เนื่องจากเวลามันไม่ดึกมาก ผมก็ได้มีโอกาสดูหลาย ๆ คู่ที่ไม่เคยดูมาก่อน พอดูไป ก็จะมีนักเตะที่เล่นแล้วสะดุดตา ขยัน หรือมีความสามารถที่น่าสนใจ จนดูจบแล้วเราก็จำทีมนี้ได้ และครั้งหน้าก็อาจจะเชียร์ต่อแม้จะได้ดูแค่ครั้งเดียวก็ตาม อย่างตอนนี้ก็ชอบดูอาร์เจนตินา ดูเมสซี่ที่เป็นมือหนึ่งของโลก ซึ่งถึงแม้จะมีฅนบอกว่าไม่สามารถโชว์ฟอร์มสุดยอดได้เหมือนฟุตบอลลีค แต่ผมดูแล้วก็รู้สึกเก่งมากนะ เวลาได้บอลมาทีไรก็หลอกล่อฅนที่เข้ามาประกบได้เป๋อยู่เรื่อย ๆ (แม้กระทั่งจะโดนซ้อนสองถึงสามฅนตลอด) และจ่ายบอลได้คมมาก คือถ้าไม่หวังว่าจะต้องเห็นการทำประตูสวย ๆ ได้ดูส่วนอื่น ๆ ของเกมบ้างก็สนุกดีใช้ได้ครับ
– เรื่องสุดท้ายก็เป็นเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการเล่นฟุตบอลนะครับ อย่างสาว ๆ ก็จะชี้ชวนกันดูว่านักฟุตบอลฅนไหนหน้าตาเป็นอย่างไร บางฅนก็อาจจะสนเรื่องแฟชั่น การแต่งกาย อย่างผมเองก็จะรู้สึกว่าทำไมชุดนักฟุตบอลมันไม่รัดรูปไปหน่อยหรือ(วะ) แล้วรองเท้าฟุตบอลที่ข้างละสีนี่มันกำลังเป็นแฟชั่นตอนนี้จริงหรือ แต่ที่น่าสนใจคือวันก่อนไปตัดผม ช่างตัดผมก็คุยกันเรื่องบอลโลกนี่แหละ แต่แทนที่จะคุยกันว่านักเตะฅนไหนมีฝีมือเป็นอย่างไร กลับคุยกันว่าทรงผมนักเตะฅนไหนเป็นยังไงนะฮะเนี่ย (แต่ก็เหมาะกับอาชีพเขาดีนะ) ซึ่งผมเองก็คิดว่า ไอ้ทรงไถเกรียนขึ้นไปแล้วเหลือแค่ผมยาว ๆ ข้างบนนี่ มันก็ดูเป็นแฟชั่นของเด็กแว้นบ้านเราเหมือนกันแฮะ
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปีนี้ใครจะเป็นแชมป์ แต่่ก็หวังว่าสักวันฅนไทยคงได้เชียร์บอลไทยในศึกฟุตบอลโลกเสียทีนะ